วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ฎีกาเทียบเคียงกับกรณีสาวรถเก๋งชนกลุ่มนักปั่นเสียชีวิต/บาดเจ็บสาหัสที่จังหวัดเชียงใหม่วันที่ 03/05/2558

23:24








** ฎีกาเทียบเคียงกับกรณีสาวรถเก๋งชนกลุ่มนักปั่นเสียชีวิต/บาดเจ็บสาหัสที่จังหวัดเชียงใหม่เช้านี้ครับ

คำพิพากษาศาลฎีกา 4067/2550

การที่จำเลยขับรถในขณะเมาสุรา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43 (2), 160 วรรคสาม กับการที่จำเลยขับรถโดยประมาทแซงรถที่อยู่ข้างหน้าไปในหน้าไปในช่องเดินรถขวามือในขณะที่ผู้ตายขับสวนมา เป็นเหตุให้ชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเสียหายและทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 291 และ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43 (4), 157 นั้น เป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องและเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำกรรมเดียว ต้องลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด

คำพิพากษาฉบับเต็ม:

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 91, 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43, 157, 160 และจำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกมีกำหนด 1 เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ในข้อหาขับรถขณะเมาสุรา ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 706/2548 หมายเลขแดงที่ 674/2548 ภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดรอการลงโทษจำคุกไว้ในคดีดังกล่าว จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีก อันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ขอให้บวกโทษของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าวเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้

จำเลยให้การับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2) (4), 157, 160 วรรคสาม เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัสและได้รับอันตรายแก่กาย (ที่ถูก ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฐานขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน) เป็นกรรมเดียวกัน ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 4 ปี ฐานขับรถในขณะเมาสุรา จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 1 เดือน บวกโทษจำคุก 1 เดือน ที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 674/2548 ของศาลชั้นต้น รวมจำคุก 2 ปี 2 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอบวกโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 674/2548 ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษคดีนี้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า สมควรลงโทษจำเลยสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า ในส่วนความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น จำเลยขับรถยนต์กระบะบรรทุกในขณะที่จำเลยเมาสุราแซงรถที่อยู่ข้างหน้าล้ำเข้าไปในช่องทางรถสวนในขณะที่รถจักรยานยนต์แล่นสวนทางมาในระยะกระชั้นชิดซึ่งเป็นการขับรถที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่นายพิบูลย์ศักดิ์หรือบอยขับสวนมา รถจักรยานยนต์ดังกล่าวเสียหายและนายพิบูลย์ศักดิ์หรือบอยถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยนอกจากจะเป็นการขับรถโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายแล้วยังมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมใช้ถนน ตามพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งจำเลยเคยต้องคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุรามาครั้งหนึ่งแล้ว โดยศาลในคดีก่อนให้โอกาสจำเลยโดยรอการลงโทษจำคุกไว้ แต่จำเลยไม่เข็ดหลาบกลับมากระทำความผิดในลักษณะเดียวกันอีก แม้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายผู้ตายจนไม่ติดใจเอาความแก่จำเลย และจำเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว ก็ไม่มีเหตุเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยให้เบาลงอีกและรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษามานั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง การที่จำเลยขับรถในขณะเมาสุรา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2), 160 วรรคสาม กับการที่จำเลยขับรถโดยประมาณแซงรถที่อยู่ข้างหน้าไปในช่องเดินรถขวามือในขณะที่ผู้ตายขับสวนมาเป็นเหตุชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเสียหายและทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 157 นั้น เป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องและเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำกรรมเดียว ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยฐานขับรถขณะเมาสุราเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งนั้น จึงเป็นการมิชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225"

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2) (4), 157, 160 วรรคสาม เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6

เนื้อหา ที่มา เพจฏีกาน่าสนใจ
รูปภาพ ที่มา เพจDrama-addict


ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ ปรึกษากฎหมายฟรี


0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

ป้ายกำกับ

คลังรูปภาพ ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ ความรู้เทคนิคเคล็ดลับ คำคมโดนๆจากหลายสำนัก เคล็ดลับสาระน่ารู้ โดเมนโฮสติ้ง ตำนานประวัติศาสตร์ แนะนำหนัง สนุก มัน ซึ้ง บทความดีๆที่น่าอ่าน บล็อกและเว็บไซต์ ประเพณีพื้นบ้านไทย ปริศนาโลก ภาพสวยอาร์ตหลากอารมณ์ มุมมองเกี่ยวกับความรัก มุมมองความรัก รวมภาพตุ๊กตาน่ารัก รวมภาพสัตว์น่ารัก รวมภาพสาวเซ็กซี่น่ารัก รวมภาพอาร์ตๆ เรื่องของเห็ดๆ เรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อ เรื่องราวลี้ลับพิศวง วัดพระธาตุนครพนม เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ สถานที่ท่องเที่ยว จ.ชัยภูมิ สถานที่ท่องเที่ยว จ.นครพนม สถานที่ท่องเที่ยวจากทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้ออนไลน์ สังคมและกฎหมาย สูตรการทำอาหาร อัพเดทสังคมออนไลน์ Anime ภาพการ์ตูนสวยๆ App มือถือ blogger facebook Gif ภาพเคลื่อนไหว Google Opencart Wallpapers