ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 " ผู้ใดกระทำการโดยประมาทเป็น เหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตา ยต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท "
จากบทกำหนดโทษตามมาตรานี้ ที่ ทำให้คนขับรถที่ชนคนมักหลบห นีเนื่องจากเกรงว่าจะถูกลงโ ทษตามที่กำหนด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องด้วยการกระทำโดยประมา ท คือการกระทำที่ขาดความระมัด ระวัง หรือ ระวังแล้ว แต่ไม่เพียงพอตามวิญญูชนพึง ถือปฏิบัติซึ่งไม่ใช่เจตนา ซึ่งหมายถึงการกระทำที่ผู้ก ระทำได้เล็งเห็นผลที่ชัดเจน อยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อเป็นเรื่องการประมาท ศาลมักจะให้โอกาสกับผู้กระท ำการโดยประมาทได้มีการปรับป รุงตน ซึ่งทั่วไปแล้ว โทษจำคุกมักจะรอลงอาญา เว้นแต่บุคคลนั้นเคยกระทำคว ามผิดเช่นว่านั้น หรือเคยรอลงอาญามาก่อนแล้วย ังมากระทำความผิดซ้ำอีก เช่นนี้ศาลจะพิจารณาลงโทษเล ยและไม่เพียงแต่ลงโทษในคดีค วามใหม่เท่านั้นแต่จะรวมเอา โทษที่รอลงอาญาอยู่ก่อนนั้น มาลงโทษด้วยทันที การที่ศาลจะรอลงอาญากับผู้ก ระทำผิดหรือกระทำการโดยประม าทนั้นจะต้องมีพฤติกรรมที่แ สดงถึงความรับผิดชอบและรู้ส ำนึกเป็นเบื้องต้นก่อน
ดังนั้นในกรณีที่ขับรถเกิดอ ุบัติเหตุหรือชนคนได้รับบาด เจ็บหรือเสียชีวิตจึงแนะนำว ่า
1.ผู้ขับขี่ต้องอย่าหลบหนี เพราะการหลบหนีนั้นเป็นพฤติ กรรมที่แสดงถึงการขาดความรั บผิดชอบ และ ขาดไร้ซึ่งคุณธรรม
ถ้าผู้ขับขี่หลบหนีหรือไม่แ สดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที ่ กฎหมายให้สันนิษฐานว่าเป็นผ ู้กระทำผิด และตำรวจมีอำนาจยึดรถที่ขับ ไว้จนกว่าจะได้ตัวผู้ขับขี่ หรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
2.ต้องแสดงความรับผิดชอบ การมีน้ำใจเช่นการให้ความช่ วยเหลือ การบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคั ญมากๆ คนขับรถ มักไม่ค่อยเห็นประโยชน์ ของการช่วยเหลือเหล่านี้ ความจริงเมื่อเราขับรถชน คนตาย บาดเจ็บ หรือการขับรถโดยประมาทนั้น เรามีความผิดทั้งทางกฎหมายแ พ่ง และอาญา
ทางอาญา เราอาจจะต้องรับโทษติดคุกติ ดตะราง
ทางแพ่ง เราจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าบาดเจ็บ ค่าทำศพให้กับเขาอีก คือติดคุกแล้วยังจะต้องเสีย เงินให้กับ ฝ่ายคนเจ็บ คนตายเขาอีก ทีนี้ถ้าหากเราช่วยเหลือคนเ จ็บ หรือใช้ค่าทำศพคนตายแล้ว มีผลดียังไง ตอบได้ว่า มีผลดีมาก ยกตัวอย่าง เช่น
- เราขับรถชนคนบาดเจ็บไปโรงพย าบาล ต่อมาอัยการฟ้องเราต่อศาล เราก็แถลงต่อศาลว่าเราช่วยเ หลือคนเจ็บ ส่งโรงพยาบาล ส่วนมาก ศาลจะเห็นว่า เราเป็นคนดีมีน้ำใจ ศาลก็อาจจะรออาญาให้เราโดยไ ม่จำคุกเรา แต่ถ้าเราชนแล้วหนี ส่วนมาก ศาลมักจะจำคุกเราเลย เพราะเห็นว่าเราเป็นคนแล้งน ้ำใจ
- การตกลงใช้ค่าเสียหายให้คนเ จ็บก็มีประโยชน์มากยกตัวอย่ างเช่น ถ้าเราไม่พยายามตกลงใช้ค่าเ สียหายให้กับคนเจ็บ ตำรวจเขาจะมีระเบียบไว้ว่า ไม่ให้คืนรถของกลางให้แก่ผู ้ต้องหา จนกว่า ผู้ต้องหา จะพยายาม ตกลงกับฝ่ายผู้เสียหาย และถ้าหาก เราชดใช้ค่าเสียหาย จ่ายค่าทำศพให้เขา คดีแพ่งก็ระงับ เพราะถือว่า ยอมความคดีแพ่งกันแล้ว จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเราใน ทางแพ่งไม่ได้อีกแล้ว และถ้าเราถูกฟ้อง คดีอาญาต่อศาล ผู้เสียหาย จะมาแถลงต่อศาลว่า เราได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เข าแล้ว ส่วนมากแล้ว ศาลจะปรานีจำเลย โดยตัดสินให้รออาญาแก่จำเลย เห็นหรือยังว่า การช่วยเหลือคนเจ็บ และการมีน้ำใจนั้นดีอย่างไร
3. ยอมรับผิดด้วยรู้สำนึกต่อกา รกระทำที่เกิดขึ้นและให้ควา มร่วมมือในการสอบสวนคดีของต ำรวจ
4.ผู้ขับขี่ต้องแจ้งเหตุที่ เกิดขึ้นนั้นกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุน ั้นและแสดงตนหรือมอบตัวต่อเ จ้าพนักงานสอบสวน
5.ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ ้นตามสมควรแก่กรณีให้กับผู้ เสียหาย (ผู้เสียหายในที่นี้อาจจะหม ายถึง ภรรยา บุตร หรือ ญาติของผู้เสียชีวิต ) และหากรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีประกันภัยเอาไว้ก็ต้องแจ้ งเหตุที่เกิดขึ้นนั้นให้บริ ษัทประกันภัยรับทราบทันที ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะว่าเมื่อบริษัทประกันภ ัยได้รับแจ้งเหตุจากคนขับ ทางบริษัทประกันภัยก็จะส่งพ นักงานเคลมออกมาให้บริการกั บผู้ขับขี่และให้คำแนะนำที่ ถูกต้องพร้อมทำแผนที่เกิดเห ตุไว้พร้อมมูลเพื่อเอาไว้ต่ อสู้คดี (ในการชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าหากรถคันที่เกิดเหตุมีปร ะกันภัยเอาไว้ ประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น ประเภท 1 2 3 หรือ ประเภท5 ( 2+ ,3+ ) ก็จะมีความคุ้มครองต่อชีวิต บุคคลภายนอกเอาไว้ด้วย ซึ่งความคุ้มครองในส่วนนี้เ องที่จะไปชดใช้ค่าเสียหายต่ อชีวิต ที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ที่เกินจาก พรบ. ค่าขาดไร้อุปการะ เป็นต้น )
**** อย่าลืม ถ้ามีกล้องถ่ายรูปหรือหากล้ องถ่ายรูปใกล้ที่เกิดเหตุได ้ต้องรีบถ่ายรูปรถ และที่เกิดเหตุไว้ให้พร้อม
เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นหลักฐ านการต่อสู้คดีต่อไป และหากมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ปอเต็กตึ้งหรือมูลนิธิร่วมก ตัญญูถ่ายภาพศพหรือที่เกิดเ หตุไว้ ก็ให้ติดต่อขอภาพที่ถ่ายเก็ บไว้ให้ได้ เพราะจะเป็นประโยชน์แก่รูปค ดีในภายหลัง *****
ในชั้นพนักงานสอบสวนก็จะทำก ารสืบสวน-สอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ขับ ขี่ที่ประมาท โดยเมือแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว คดีนั้นมีผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนก็จะทำการควบค ุมตัวผู้ต้องหา ตรงนี้แหละครับที่บริษัทประ กันภัยจะเข้ามาให้การช่วยเห ลือผู้ขับขี่ด้วยการนำหลักท รัพย์มาประกันตัวให้กับผู้ข ับขี่ หากกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนั ้นมีการซื้อ ประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญ าเอาไว้ ( ซึ่งปกติ จะมีอยู่ในกรมธรรมภาคสมัครใ จแทบทุกฉบับครับ แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น โดยปกติ จะอยู่ที่ 200,000 , 300,000 แต่ก็มีบางกรมธรรม์ ที่ประกันตัวผู้ขับขี่ เป็น 100,000 เช่น สินมั่นคง เรทตามไมล์ ครับ ) แต่ถ้ากรมธรรม์ประกันภัยไม่ ได้ซื้อความคุ้มครองในส่วนป ระกันตัวผู้ขับขี่เอาไว้ หรือ ซื้อไว้ แต่ไม่พอ ก็เป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่เ องที่ต้องหาหลักทรัพย์มาประ กันตัวออกไป ตรงนี้เรียกว่า การประกันตัวชั้นพนักงานสอบ สวน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป ็นผู้กำหนดว่า หลักทรัพย์ที่จะต้องนำมาประ กันตัวนั้นจะต้องมีมูลค่าเท ่าไร ( โดยปกติจะกำหนดอยู่ที่ ถ้าเป็นรถส่วนบุคคล 150,000 บาท รถรับจ้าง 200,000-250,000 บาท ครับ ) จากนั้นเมื่อมีการประกันตัว ในชั้นนี้แล้ว ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะทำการสรุปสำนวนรายงานการส อบสวนพร้อมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งจะมีการกำหนดระยะเวลาเอ าไว้ประมาณ 90 วัน เมื่อ สืบสวน-สอบสวนเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำเสนอรายงานการสอบสวนส ่งให้กับผู้กำกับการเพื่อขอ ความเห็นชอบเป็นคำสั่งตามคว ามเห็นของพนักงานสอบสวน ซึ่งจะมีการสรุป ออกเป็น สาม แนวทางคือ 1. งดการสอบสวน 2. สั่งไม่ฟ้อง 3. สั่งฟ้อง จากนั้นก็จะมีการส่งสำนวนกา รสอบสวนดังกล่าวไปยังอัยการ
สำหรับในชั้นอัยการนั้น เมื่อพนักงานสอบสวนจะมีการส ่งไปยังอัยการ ก็จะมีการแจ้งให้ผู้ถูกกล่า วหาได้รับทราบ ตรงนี้เมื่อผู้ถูกกล่าวหารั บทราบถึงการนัดส่งอัยการ ก็ต้องแจ้งให้ทางบริษัทประก ันภัยทราบเพื่อให้บริษัทประ กันภัยจะได้จัดเตรียมหลักทร ัพย์เพื่อการประกันตัวในชั้ นอัยการอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งอัยการก็จะมีหน้าที่ในก ารตรวจสอบสำนวนรายงานการสอบ สวนว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไร โดยอัยการอาจมีการส่งสำนวนก ลับคืนให้ทางตำรวจทำการสืบส วน-สอบสวนเพิ่มเติมได้ หรือเมื่อหากสำนวนรายงานการ สอบสวนครบสมบูรณ์แล้ว อัยการก็จะมีความเห็นในสองแ นวทางคือ
เห็นควรตามรายงานการสอบสวน หรือ มีความเห็นตรงกันข้ามกับพนั กงานสอบสวนก็อาจจะเป็นไปได้ เช่น พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่ งฟ้องผู้ต้องหา แต่อัยการอาจจะมีความเห็นเป ็นเด็ดขาดว่า สั่งไม่ฟ้อง ก็สามารถกระทำได้ ซึ่งหากอัยการมีความเห็นสั่ งฟ้อง ก็จะมีการส่งตัวผู้ต้องหาแล ะสำนวนสั่งฟ้องไปยังศาลต่อไ ป
เมือไปถึงชั้นศาล ในชั้นนี้ก็เป็นอีกขั้นตอนห นึ่งที่บริษัทประกันภัยจะต้ องมีการเตรียมหลักทรัพย์มาป ระกันตัวในชั้นศาลให้กับผู้ ขับขี่และจะมีการแต่งตั้งทน ายความเข้ามาเพื่อดำเนินการ ตามกระบวนการทางศาล
จะเห็นได้ว่า ระบบประกันภัยจะเข้ามาให้คว ามคุ้มครองและดูแลให้กับผู้ ขับขี่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องหลบหนี หากรถคุณมีประกันภัย
จากบทกำหนดโทษตามมาตรานี้ ที่ ทำให้คนขับรถที่ชนคนมักหลบห
ดังนั้นในกรณีที่ขับรถเกิดอ
1.ผู้ขับขี่ต้องอย่าหลบหนี เพราะการหลบหนีนั้นเป็นพฤติ
ถ้าผู้ขับขี่หลบหนีหรือไม่แ
2.ต้องแสดงความรับผิดชอบ การมีน้ำใจเช่นการให้ความช่
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคั
ทางอาญา เราอาจจะต้องรับโทษติดคุกติ
ทางแพ่ง เราจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าบาดเจ็บ ค่าทำศพให้กับเขาอีก คือติดคุกแล้วยังจะต้องเสีย
- เราขับรถชนคนบาดเจ็บไปโรงพย
- การตกลงใช้ค่าเสียหายให้คนเ
3. ยอมรับผิดด้วยรู้สำนึกต่อกา
4.ผู้ขับขี่ต้องแจ้งเหตุที่
5.ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ
**** อย่าลืม ถ้ามีกล้องถ่ายรูปหรือหากล้
เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นหลักฐ
ในชั้นพนักงานสอบสวนก็จะทำก
สำหรับในชั้นอัยการนั้น เมื่อพนักงานสอบสวนจะมีการส
เห็นควรตามรายงานการสอบสวน หรือ มีความเห็นตรงกันข้ามกับพนั
เมือไปถึงชั้นศาล ในชั้นนี้ก็เป็นอีกขั้นตอนห
จะเห็นได้ว่า ระบบประกันภัยจะเข้ามาให้คว
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ ปรึกษากฎหมายฟรี
ทนายความ/รับว่าความ/ปรึกษากฎหมายฟรี
ตลอด24ชม.โทร 097-2206939
บทความและภาพ ในบล็อกนี้บางบทบางภาพอาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นที่ที่ทางเราคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ dotth.biz@Gmail.com ทางเราจะได้นำบทความนั้นนั้นออก ขอบคุณครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น