วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

SEO:รู้จัก Meta tags

04:09






Meta tags เป็นข้อความที่เราประกาศเอาไว้ใน Code จะไม่แสดงผลในเว็บเพจ โดยเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ , Keywords ที่ใช้ที่เกี่ยวข้อกับเว็บไซต์ Search Engine จะทำการเก็บรายละเอียดพวกนี้ไว้อ้างอิงเว็บไซต์เรา

ถ้าเราไม่เขียนก็ได้ แต่ Search Engine จะทำการหาข้อความ หรือเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ไปแทน ซึ่งอาจไม่ใช่ใจความสำคัญ หรือส่วนสำคัญของเว็บไซต์ของเราก็ได้ จะเป็นการดีมากถ้าเราสละเวลาเล็กน้อยเพื่อเขียนรายละเอียดส่วนนี้

Meta tags นั้นมีไว้สำหรับใส่รายละเอียดของ Metadata ซึ่งจะบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บเพจที่ำกำลังแสดงผลอยู่ metadata ไม่ได้ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้งานกับเว็บเพจ เพราะแรกเริ่มเดิมทีนั้น metadata ได้ถูกใช้ในกลุ่มพัฒนาฐานข้อมูลที่อ้างอิงถึงสารสนเทศ ในห้องสมุดเพื่อให้บรรณารักษ์ได้ใช้ในการจัดการระบบห้องสมุด ซึ่งถ้าหากจะว่าไปแล้วเราก็อาจเปรียบเทียบได้ว่า เว็บเพจต่างๆ นั้นเปรียบเสมือนห้องสมุดโลกขนาดใหญ่ ด้วยเหตุผลนี้เองจึงได้มีแนวความคิดในการนำ metadata มาประยุกต์ใช้กับเว็บเพจต่างๆ

ตัวอย่างการใช้งาน Meta tags นั้นเราจะเขียน code ให้อยู่ในส่วนของ <HEAD></HEAD> ในหน้าเว็บเพจที่เราต้องการใช้ Meta tags ตัว Meta tags เองนั้นมีมากมายหลายแบบ จะขอกล่าวแบบที่นิยมใช้กันดังนี้

<HEAD>
<META HTTP-EQUIV="CONTENT-TYPE" CONTENT="TEXT/HTML; CHARSET=รหัสมาตราฐานภาษาที่ใช้บนเว็บ" >
<META NAME="KEYWORDS" CONTENT="ใส่คำสำคัญ">
<META NAME="DESCRIPTION" CONTENT="ใส่เนื้อหาเกี่ยวกับเว็บไซต์">
<META NAME="AUTHOR" CONTENT="ใส่ชื่อ">
<META NAME="COPYRIGHT" CONTENT="ใส่พวกชื่อบริษัทแสดงความเป็นเจ้าของเว็บ">
<META NAME="GENERATOR" CONTENT="ใส่เครื่องมือที่ใช้สร้างเว็บไซต์">
<META name="ABSTRACT" content="ใส่สาระสำคัญเนื้อหาเอกสาร">
<META NAME="ROBOT" CONTENT="ต้องกำหนดค่า">
<META NAME="REVISIT-AFTER" CONTENT="ต้องกำหนดค่า">
<META HTTP-EQUIV="REFRESH" CONTENT="2;URL=หน้าที่ต้องการให้รีไดเร็คไป">
<META HTTP-EQUIV="expires" CONTENT="วันที่เวลาวันหมดอายุให้ลบออกจากฐานข้อมูล">
<META name="Distribution" content="ระดับการเผยแพร่">
<META NAME="CONTACT_ADDR" CONTENT="ใส่อีเมล์สำหรับให้คนติดต่อกลับ">
<META NAME="RATING" CONTENT="ระบุกลุ่มคนเข้าดู">
<META NAME="LANGUAGE" CONTENT="ภาษาที่ใช้ในเว็บ">
</HEAD>


Meta tags ที่ใช้กำหนดชนิดตัวอักษร
<META HTTP-EQUIV="Content-Type" CONTENT="text/html;charset=UTF-8">
meta tags นี้จะบอกชุดตัวอักษรที่ใช้กับภาษาไทย ให้ Browser ใช้ชุดตัวอักษร UTF-8 สำหรับเปิดเว็บเพจของเรา
Meta tags ที่จำเป็นสำหรับ Search Engine
<META NAME="keywords" CONTENT="ออกแบบเว็บไซต์, เว็บดีไซต์ ">
บอกคำที่เกี่ยวข้องกับเว็บเพจหน้านี้ เป็นคำที่ใช้ในการค้นหาหน้านี้ คั่นด้วยสัญลักษณ์ (,)
<META NAME="description" CONTENT="รับออกแบบเว็บไซต์ คุณภาพดี ในราคาที่คุณกำหนดได้ ">
บอกรายละเอียดของเว็บเพจแบบคร่าวๆ
Meta tags สำหรับบอกชื่อผู้เขียนหน้านี้ และลิขสิทธิ์
<META NAME="author" CONTENT="ClickmeDesign Team ">
ผู้เขียนหน้านี้
<META NAME="copyright" CONTENT = "ClickmeDesign Co., Ltd. ">
ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
Meta tags สำหรับบอกเครื่องมือที่ใช้สร้างเว็บเพจนี้
<META NAME="generator" CONTENT="Dreamweaver">
ใส่โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจหน้านี้้
Meta tags สำหรับสั่งให้ refresh หน้าเว็บเพจที่แสดงผลอยู่อัตโนมัติ
<META http-equiv="refresh" CONTENT="5; url=index.html">

- เลข 5 คือ จำนวนวินาทีที่ต้องการให้ refresh เช่นใส่เลข 5 คือให้ refresh ทุก 5 วินาที
- index.html คือ หน้าที่แสดงผลอยู่ (หน้าที่ต้องการให้ refresh)

Meta tags สำหรับสั่งให้ Re-direct หน้าเว็บเพจอัตโนมัติ ไม่นิยมแล้วเพราะอาจถูกแบนได้
<META HTTP-EQUIV="Refresh" CONTENT="3;URL=http://www.hellomyweb.com">
Redirect คือการให้เปลี่ยนหน้าเ็ว็บเพจที่แสดงผลอยู่ ไปแสดงผลอีกหน้าที่เราตั้งไว้โดยอัตโนมัติ
- เลข 3 คือจำนวนวินาทีที่จะให้แสดงหน้าแรกก่อน 3 วินาทีจึงจะเปลี่ยนไปแสดงอีกหน้าที่เราตั้งไ้ว้
- Url คือเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ re-direct ไป (เว็บไซต์ที่ต้องการให้แสดงผลแทนหน้าที่แสดงอยู่)
Meta tags สำหรับสั่งไม่ให้ Search engine แสดงผลหน้านี้
<META NAME="robots" CONTENT="noindex,nofollow">
 "ALL"   คือ การกำหนดค่าให้สามารถจัดทำดรรชนีคำในเนื้อหาได้ทุกหน้าที่มีการเชื่อมโยงถึง เพื่อนำไปจัดเก็บบันทึกลงฐานข้อมูล Search Engine
"NOINDEX"  คือ การกำหนดไม่ให้จัดทำดรรชนีคำในเนื้อหาสำหรับหน้าที่กำหนดไว้ แต่ให้ตามส่วนที่เชื่อมโยงได้และนำเนื้อหาไปจัดทำดรรชนีได้ ไปลงฐานข้อมูล Search Engine
"NOFOLLOW"  คือ การกำหนดให้จัดทำดรรชนีคำในเนื้อหา ในหน้าที่ปรากฏได้  แต่ไม่ให้ตามส่วนที่เชื่อมโยงเพื่อจัดทำดรรชนีคำในเนื้อหา นำไปลงฐานข้อมูล
"NONE"  คือ  การห้ามไม่ให้ spider จัดเก็บเว็บเพจที่ปรากฏไปทำดรรชนีเนื้อหา และ ห้ามตามส่วนเชื่อมโยงเพื่อทำดรรชนีในเนื้อหาด้วยเช่นกัน
Meta tags สำหรับสั่งให้ Search engine กลับมาที่เว็บไซต์<META NAME="revisit-after" CONTENT="7 Days">

Meta tags สำหรับบอกวันที่เวลาวันหมดอายุให้ลบออกจากฐานข้อมูล<META NAME="expires" CONTENT="Never" >

Meta tags สำหรับบอกระดับการเผยแพร่ของเว็บไซต์
<META NAME="distribution" CONTENT="Global">

Meta tags สำหรับใส่อีเมล์สำหรับให้คนติดต่อกลับ
<META NAME="CONTACT_ADDR" CONTENT="clickmedesign@msn.com"> 

Meta tags สำหรับบอกระบุกลุ่มคนเข้าดู
<META NAME="rating" CONTENT="General">

Meta tags สำหรับบอกภาษาที่ใช้ในเว็บ
<META NAME="language" CONTENT="en-th">
สำหรับ Meta tags ที่จำเป็นต้องใช้จริงๆนั้นมีแค่ 3 ตัวนั้นคือ
1.<META HTTP-EQUIV="Content-Type" CONTENT="text/html;charset=UTF-8">
2.<META NAME="keywords" CONTENT="">
3.<META NAME="description" CONTENT="">
สำหรับตัวอื่นๆนั้นขึ้นอยู่กับเราว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ความจำเป็น 


ขอบคุณข้อมูลจาก www.clickmedesign.com

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

ป้ายกำกับ

คลังรูปภาพ ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ ความรู้เทคนิคเคล็ดลับ คำคมโดนๆจากหลายสำนัก เคล็ดลับสาระน่ารู้ โดเมนโฮสติ้ง ตำนานประวัติศาสตร์ แนะนำหนัง สนุก มัน ซึ้ง บทความดีๆที่น่าอ่าน บล็อกและเว็บไซต์ ประเพณีพื้นบ้านไทย ปริศนาโลก ภาพสวยอาร์ตหลากอารมณ์ มุมมองเกี่ยวกับความรัก มุมมองความรัก รวมภาพตุ๊กตาน่ารัก รวมภาพสัตว์น่ารัก รวมภาพสาวเซ็กซี่น่ารัก รวมภาพอาร์ตๆ เรื่องของเห็ดๆ เรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อ เรื่องราวลี้ลับพิศวง วัดพระธาตุนครพนม เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ สถานที่ท่องเที่ยว จ.ชัยภูมิ สถานที่ท่องเที่ยว จ.นครพนม สถานที่ท่องเที่ยวจากทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้ออนไลน์ สังคมและกฎหมาย สูตรการทำอาหาร อัพเดทสังคมออนไลน์ Anime ภาพการ์ตูนสวยๆ App มือถือ blogger facebook Gif ภาพเคลื่อนไหว Google Opencart Wallpapers