คดีที่มีการฟ้องร้องเกี่ยวก ับการเช่าซื้อรถ ที่สู้คดีกันจนถึงศาลฎีกามี มากพอสมควรและก็มีคดีที่ศาล ฎีกาได้วินิจฉัยไว้ที่อาจถื อเป็นบรรทัดฐานในชั้นนี้ได้ ที่น่าสนใจหลายประเด็น ซึ่งขอแยกเป็นเรื่องดังนี้
– อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่คิดจากการเ ช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อคิดเหมาตามยอ ดเงินต้น ตั้งแต่วันแรกของการส่งค่าง วดจนถึงงวดสุดท้าย โดยไม่ได้ลดต้นลดดอกที่ผ่อน ชำระไปแล้ว ดังนั้น ดอกเบี้ยตามความเป็นจริงจะส ูงกว่าอัตราที่โฆษณาไว้ประม าณเท่าตัว ในบางกรณีอัตราดอกเบี้ยอาจส ูงถึงร้อยละสามสิบเกินกว่าอ ัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัต ิห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตร า เพราะมิใช่ดอกเบี้ยกู้ยืมเง ิน (คำพิพากษาฎีกาที่ 9571/2544)
– ค่าเสียหายกรณีรถยนต์ที่ผ่อ นสูญหาย การผ่อนรถยนต์โดยทำสัญญาเช่ าซื้อที่มีข้อกำหนดในสัญญาใ ห้ผู้เช่าซื้อต้องจัดทำสัญญ าประกันภัย กรณีที่รถยนต์สูญหาย โดยให้ผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู ้รับประโยชน์ และกำหนดในสัญญาด้วยว่า ถ้ารถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย อันผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชอ บ ผู้เช่าซื้อต้องจ่ายค่างวดท ี่เหลือจนครบนั้น ถ้าผู้ให้เช่าซื้อได้รับค่า ชดใช้สองทาง คือ จากผู้เช่าซื้อที่ต้องจ่ายค ่างวดที่เหลือจนครบ และก็รับค่าสินไหมทดแทนจากบ ริษัทประกันภัยด้วย กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกามีคำพิพากษาวินิจฉัย ว่า กรณีที่รถยนต์ที่เช่าซื้อถู กลักไป ผู้ให้เช่าซื้อได้รับค่าสิน ไหมทดแทนสองทางโดยได้จากผู้ เช่าซื้อและจากบริษัทประกัน ภัย อันเป็นการเกินกว่าค่าเสียห ายที่ได้รับ เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต ผู้ให้เช่าซื้อต้องคืนค่าเช ่าซื้อดังกล่าวให้ผู้เช่าซื ้อ (คำพิพากษาฎีกาที่ 4819/2549)
– การผิดนัดค้างค่าผ่อนส่ง ตามกฎหมายว่าด้วยเช่าซื้อ หากผู้เช่าซื้อค้างค่าผ่อนส ่งสองงวดติดต่อกัน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเล ิกสัญญาได้ แต่ก็มีผู้ให้เช่าซื้อบางรา ยกำหนดในสัญญาว่าหากผิดนัดค ้างค่าผ่อนส่งงวดใดงวดหนึ่ง คือ ผิดนัดเพียงงวดเดียวก็บอกเล ิกสัญญาได้ ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อส ัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อความส งบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันด ีของประชาชนใช้บังคับได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ 9571/ 2544) อย่างไรก็หากเป็นการผ่อนรถโดยทำสั ญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงิ นหรือผู้ประกอบธุรกิจให้เช่ าซื้อ สัญญาเช่าซื้อในกรณีนี้จะอย ู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภ ค ซึ่งจะบอกเลิกสัญญาได้ต่อเม ื่อผิดนัดไม่ส่งค่างวดสามงว ดติดต่อกัน
สำหรับกรณีที่ผู้เช่าซื้อส่ งค่างวดไม่ตรงตามเวลาที่กำห นด ซึ่งผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบ อกเลิกสัญญาได้ เช่น ค้างส่งค่างวดสามงวดติดต่อก ัน แต่ต่อมา ผู้เช่าซื้อนำค่างวดมาชำระ ผู้ให้เช่าซื้อก็ยอมรับค่าเ ช่าซื้อนั้นโดยไม่ทักท้วง แสดงว่าคู่สัญญาไม่ถือเอากำ หนดเวลาชำระค่าเช่าซื้อเป็น สาระสำคัญ เท่ากับผู้ให้เช่าซื้อยอมให ้สัญญาเช่าซื้อมีผลบังคับกั นต่อไป (คำพิพากษาฎีกาที่ 3830-3831/2550)
– ค้างค่างวด ถูกยกเลิกสัญญา รถถูกยึด ต้องจ่ายค่างวดที่ค้างหรือไ ม่ ตามกฎหมายว่าด้วยการเช่าซื้ อ ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำร ะค่างวดตามที่กำหนดในสัญญา เช่น สองงวดหรือสามงวดติดกัน ผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญา ได้ เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้ว เงินดาวน์และค่างวดที่ส่งไป แล้ว จะตกเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ และผู้ให้เช่าซื้อกลับเข้าค รอบครองรถคือยึดรถกลับคืนได ้ กรณีเช่นนี้ มีข้อพิจารณาว่าผู้ผ่อนรถ คือ ผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายค่างว ดที่ค้างชำระให้ผู้ให้เช่าซ ื้อหรือไม่ สำหรับแนววินิจฉัยของศาลฎีก าในปัจจุบัน ถือว่าผู้ให้เช่าซื้อไม่มีส ิทธิเรียกให้ผู้เช่าซื้อชำร ะค่างวดที่ค้างชำระ แต่สามารถเรียกค่าเสียหายหา กรถนั้นชำรุดเสียหายและเรีย กค่าเสียหายจากการเลิกสัญญา ได้ และถึงแม้ในสัญญาจะมีข้อกำห นดให้เรียกค่างวดที่ค้างชำร ะได้ ศาลฎีกาถือว่าเป็นการกำหนดค วามรับผิดในความเสียหาย เนื่องจากการไม่ชำระหนี้ไว้ ล่วงหน้า ซึ่งศาลมีอำนาจปรับลดถ้าเห็ นว่าสูงเกินควรได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ 356/2548) (คำพิพากษาฎีกาที่ 1496/ 2548)
– ผู้ให้เช่าซื้อผิดสัญญา ในการให้เช่าซื้อรถยนต์รายห นึ่ง ปรากฏว่าบริษัทที่ขายรถยนต์ ไม่สามารถจดทะเบียนและต่อทะ เบียนรถยนต์นั้นได้ จึงทำให้บริษัทผู้ประกอบธุร กิจให้เช่าซื้อไม่สามารถจดท ะเบียนและต่อทะเบียนให้ผู้เ ช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจึงหยุดส่งค่างว ด แต่ยังคงครอบครองและใช้รถยน ต์คันนั้น บริษัทให้เช่าซื้อได้มีหนัง สือทวงถามให้ผู้เช่าซื้อชำร ะหนี้และบอกเลิกสัญญา ต่อมาได้ยื่นฟ้อง หลังจากนั้น ผู้เช่าซื้อจึงคืนรถให้ผู้ใ ห้เช่าซื้อ และผู้เช่าซื้อก็ได้ฟ้องแย้ งเรียกเงินดาวน์คืน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นทรัพย ์ที่มีทะเบียน ผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อ ในฐานะผู้ให้เช่าซื้อจึงมีห น้าที่ต้องจดทะเบียนและต่อท ะเบียนรถยนต์ที่เช่าซื้อ เพื่อให้ผู้เช่าซื้อได้ใช้ร ถยนต์ตามสภาพของรถยนต์และโด ยชอบด้วยกฎหมาย การที่บริษัทที่ขายรถยนต์ไม ่จดทะเบียนและโอนกรรมสิทธิ์ ให้บริษัทผู้ให้เช่าซื้อ เป็นสิทธิและหน้าที่ของผู้ใ ห้เช่าซื้อที่จะต้องดำเนินก ารให้ผู้ขายจดทะเบียนรถยนต์ ดังกล่าว ไม่อาจอ้างว่าเป็นเรื่องพ้น วิสัยได้ กรณีนี้ผู้ให้เช่าซื้อเป็นฝ ่ายผิดสัญญาตั้งแต่แรก (ที่ไม่จดทะเบียนรถยนต์) การบอกเลิกสัญญาจึงเป็นการบ อกเลิกสัญญาที่ไม่ชอบ แต่เมื่อมีการส่งมอบรถยนต์ท ี่เช่าซื้อคืนแก่กัน จึงเป็นกรณีที่ทั้งสองฝ่ายส มัครใจใช้สิทธิเลิกสัญญาต่อ กัน ถือว่าสัญญาเลิกกันโดยปริยา ย ทั้งสองฝ่ายจึงต้องกลับสู่ฐ านะเดิม เมื่อผู้เช่าซื้อคืนรถ ผู้ให้เช่าซื้อต้องคืนค่าเช ่าซื้อและเงินดาวน์ที่จ่ายไ ปแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อไม่มีสิทธิเร ียกค่าเสียหาย คงเรียกได้เฉพาะค่าใช้รถยนต ์ช่วงที่ผู้เช่าซื้อครอบครอ งและใช้ประโยชน์ เทียบเท่ากับเงินดาวน์และค่ างวดและค่าจดทะเบียนที่ได้จ ่ายไปแล้ว เห็นสมควรให้เป็นพับกันไปทั ้งสองฝ่าย (เจ๊ากัน) (คำพิพากษาฎีกาที่ 3745/2551)
– การซื้อขายสิทธิตามสัญญาเช่ าซื้อ ในการเช่าซื้อรถหากผู้เช่าซ ื้อเห็นว่าจะไม่สามารถส่งค่ างวดต่อไปหรือจะเปลี่ยนใจผ่ อนรถคันใหม่ ถ้าจะบอกเลิกสัญญากับผู้ให้ เช่าซื้อ ก็จะต้องเสียเงินดาวน์และค่ างวดที่ผ่อนไปแล้วไปเสียเปล ่า จึงมีการซื้อขายสิทธิที่เรี ยกกันว่าขายดาวน์ ความเป็นจริง ก็คือ การขายสิทธิตามสัญญาเช่าซื้ อที่ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยแ ล้ว ว่า สิทธิเช่าซื้อเป็นทรัพย์สิน อย่างหนึ่งที่สามารถซื้อขาย กันได้ เช่น คำพิพากษาฎีกาที่ 2466 / 2539 (ประชุมใหญ่) เป็นกรณีซื้อขายสิทธิตามสัญญา เช่าซื้อที่ดิน คำพิพากษาฎีกาที่ 4503/2540 กรณีขายสิทธิเช่าซื้อรถยนต์
อย่างไรก็ตาม การขายดาวน์รถยนต์ที่จะไม่ใ ห้เกิดปัญหาต่อผู้ให้เช่าซื ้อที่ขายดาวน์ในภายหลัง เช่น อาจถูกผู้ซื้อดาวน์ที่ทุจริ ตเชิดรถยนต์หนี และก็ไม่ส่งค่างวดต่อ ซึ่งจะทำให้ผู้ขายดาวน์ยังค งมีภาระต้องผ่อนค่างวดจนครบ โดยไม่ได้ใช้รถ การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา คือ ดำเนินการเปลี่ยนคู่สัญญากั บผู้ให้เช่าซื้อ โดยเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อจ ากผู้ขายดาวน์ไปเป็นผู้รับซ ื้อดาวน์เสียให้ถูกต้อง เมื่อเปลี่ยนคู่สัญญาแล้วหา กมีข้อพิพาทเกี่ยวกับรถที่เ ช่าซื้อเกิดขึ้น เช่น ผู้ซื้อดาวน์ที่เป็นผู้เช่า ซื้อรายใหม่ขาดการส่งค่างวด ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ให้เ ช่าซื้อกับผู้ที่รับซื้อดาว น์ที่เป็นผู้เช่าซื้อรายใหม ่ ผู้เช่าซื้อเดิมไม่ต้องรับผ ิดด้วย มีกรณีคล้ายทำนองนี้เป็นคดี เกิดขึ้น เช่น ในคดีเกี่ยวกับการเช่าซื้อร ถยนต์คดีหนึ่ง นายวรเดช ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ กับบริษัท หาดใหญ่ ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อมาโดยไม ่ผิดนัด จนถึงงวดที่ 5 นายวรเดชได้ติดต่อกับพนักงา นของบริษัท หาดใหญ่ ขอเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อใหม่ โดยให้นางยุพินเป็นผู้เช่าซ ื้อ พนักงานของบริษัทได้ให้ทั้ง สองคนลงชื่อในแบบพิมพ์การโอ นสิทธิของบริษัท และมีการลงชื่อรับมอบรถยนต์ ด้วย แต่ต่อมา นางยุพินผู้รับโอนสิทธิไม่ไ ด้ส่งค่างวดเลย บริษัทหาดใหญ่จึงฟ้องนายวรเ ดชให้รับผิดตามสัญญาเช่าซื้ อ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อนายวรเดชส่งมอบรถยนต์ค ันดังกล่าวให้บริษัทหาดใหญ่ (ในวันที่ไปดำเนินการโอนสิท ธิ) ถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกสัญ ญาเช่าซื้อแก่บริษัทหาดใหญ่ แล้ว สัญญาเช่าซื้อระหว่างนายวรเ ดชกับบริษัทหาดใหญ่ เป็นอันเลิกกันนับแต่วันที่ ส่งมอบรถยนต์ให้บริษัทหาดให ญ่ บริษัทหาดใหญ่ไม่มีอำนาจฟ้อ ง ให้ยกฟ้อง (คำพิพากษาฎีกาที่ 7024/ 2548)
เครดิต ตั๋วทนาย.com
การสอบใบอนุญาตว่าความ
Lawyers.in.th
– อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่คิดจากการเ
– ค่าเสียหายกรณีรถยนต์ที่ผ่อ
– การผิดนัดค้างค่าผ่อนส่ง ตามกฎหมายว่าด้วยเช่าซื้อ หากผู้เช่าซื้อค้างค่าผ่อนส
สำหรับกรณีที่ผู้เช่าซื้อส่
– ค้างค่างวด ถูกยกเลิกสัญญา รถถูกยึด ต้องจ่ายค่างวดที่ค้างหรือไ
– ผู้ให้เช่าซื้อผิดสัญญา ในการให้เช่าซื้อรถยนต์รายห
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นทรัพย
– การซื้อขายสิทธิตามสัญญาเช่
อย่างไรก็ตาม การขายดาวน์รถยนต์ที่จะไม่ใ
เครดิต ตั๋วทนาย.com
การสอบใบอนุญาตว่าความ
Lawyers.in.th
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ ปรึกษากฎหมายฟรี
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น