การเดินตามความฝันมันอาจทำให้เหนื่อย แต่อย่างน้อยการเดินทางของเราก็มีจุดหมาย ไม่เคว้งคว้างล่องลอยไปตามสายลมที่ไม่รู้ว่าพัดพาเราไปหยุดอยู่ตรงไหนของชีวิต ถึงแม้ว่าการเดินตามความฝันในครั้งนี้จักมิได้ดั่งฝัน ไม่เห็นเป็นไรไม่มีคำว่าเหนื่อยเปล่าเลยกับการได้ลงมือทำตามฝัน มันทำให้เราได้รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ทำเพื่อใคร เพราะอะไร เราตอบตัวเองและตอบคนอื่นได้อย่างภาคภูมิ เดินตามฝันแต่ไปไม่ถึงไม่เห็นเป็นไรดีกว่าฝันแล้วไม่ได้ลงมือ แล้วฝันก็สลายไปกับสายลมน่าเสียดายจริงๆ
อลัน โคเฮน กล่าวไว้ว่า “อย่ารอจนกว่าปัจจัยต่างๆจะพร้อมสำหรับการเริ่มต้น เพราะการเริ่มต้นต่างหากที่จะทำให้ปัจจัยทุกอย่างพร้อมเอง” บางคนรอเริ่มให้ปัจจัยต่างๆพร้อมก่อน กว่าจะได้เริ่มไฟก็มอดเสียแล้ว ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่ตอนไฟยังติดแล้วจะเริ่มตอนไหน เริ่มตอนไฟกำลังติดนี่แหละแล้วปัจจัยต่างๆมันก็จะพร้อมเอง การรอขึ้นรถเมล์คันที่ว่างๆอาจไม่มีสักคันที่ว่างสำหรับเราเลยก็ได้ พูดถึงรอรถ
เมล์แล้วนึกขึ้นได้ เคยไหมครับ เหมือนโดนแกล้งเวลาเรารอสายรถเมล์ที่จะขึ้นฝั่งที่เรารอไม่มีมาสักคนแต่กลับกันฝั่งตรงข้ามกลับมีสายที่เรารอมากมาย น่าขำดีเหมือนกัน ชีวิตเราก็เหมือนกันนะครับมองดีๆก็น่าขำ สิ่งที่อยากจำกลับลืม สิ่งที่อยากลืมกลับจำ สิ่งที่อยากทำกลับไม่ได้ทำ สิ่งที่ไม่อยากทำกลับได้ทำ ไม่อยากเจอกับคนประเภทนี้กลับเจอคนประเภทนี้ มองให้ตลกก็เป็นเรื่องตลก มองให้เป็นซีเรียสก็เป็นเรื่องซีเรียส ทุกอย่างอยู่ที่เรามองมันจริงๆ ว่าไหมครับ?
บางคนไม่กล้าเดินตามฝันเพราะกลัวการล้ม กลัวถูกหัวเราะเยาะ เราอาจจะคิดไปเองหรือเปล่าว่า ถ้าเราล้มจะมีคนหัวเราะเยาะเรา บางทีอาจจะมีคนคอยหัวเราะเยาะเราแค่คนเดียว แต่มีคนคอยให้กำลังใจอีกตั้งหลายคน แล้วทำไมเราถึงให้ความสำคัญแค่คนๆเดียวที่ไม่เห็นเราสำคัญล่ะ ไม่มีการล้มไหนไม่มีค่า ตอนที่เราหัดเดินยังล้มตั้งหลายครั้ง เอาหัวใจเมื่อเริ่มหัดเดินกลับมาใหม่ หัวใจที่มุงไปที่การเดินให้ได้เท่านั้น แม้ล้มสักกี่ครั้งก็ไม่เคยยอมแพ้ เรามาเดินไปด้วยกัน ล้มด้วยกัน ลุกขึ้นมาใหม่ด้วยกันครับ
ที่มา http://jatenewman.blogspot.com/
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น