ความผิดฐานบุกรุก
เจตนารมณ์ของกฎหมายในความผิดฐานบุกรุกนั้น คุ้มครองทั้งผู้ที่มีกรรมสิทธิ์และผู้ที่ใช้สิทธิครอบครองด้วย มีรายละเอียดดังนี้
ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น
1.เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
2.เข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข
มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ทั้งนี้ 1. ถ้าเค้าไปด้วยการเชิฺญชวนของเจ้าบ้าน หรือผู้อาศัยนั้นก็ไม่มีความผิด 2. หรือเข้าไปด้วยความสนิท ความมักคุ้น ความคุ้นเคย 3.เข้าไปตามสิทธิที่ตนเองพึ่่งมี 4.เข้าไปโดยมีเหตุจำเป็น ก็ไม่มีความผิดตามมาตรานี้
แต่ปัญหามันเกิดเมื่อผมมาอ่านฏีกาหนึ่งซึ่งมันมีลักษณะคดีใกล้เคียงกันแต่ศาลให้ความเห็นไม่เหมือนกันคือ คำพิพากษาฎีกาที่ 12031/2556 และ คำพิพากษาฎีกาที่ 1353/2508 (ประชุมใหญ่)
คือผู้ชายเข้าบ้านฝ่ายหญิง (เข้าห้องนอนฝ่าย ญ )ไปด้วยความยินยอมของฝ่ายหญิงแต่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงเค้าไม่รู้เห็นหรือให้ยินยอมด้วย จึงดำเนินคดีฐานบุกรุก ตูจะเชื่อฏีกาไหนดีว่ะ
คำพิพากษาฎีกาที่ 12031/2556
แม้พฤติการณ์ที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ในเวลากลางคืน 4 ครั้ง ต่างวันกัน จะส่อไปในทางที่ผู้เสียหายที่ 3 บุตรผู้เยาว์ของผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 รู้เห็นยินยอม แต่การที่จำเลยเข้าไปในบ้านเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายที่ 3 โดยผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไม่ยินยอม ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยมีความผิดฐานบุกรุก ตาม ป.อ.มาตรา 364, 365(3)
กับ
ฎีกาที่ 1353/2508 (ประชุมใหญ่) จำเลยเข้าไปในเรือนของผู้เสียหายตอนกลางคืน เวลา 2 นาฬิกา โดยบุตรสาวของผู้เสียหายซึ่งรักใคร่กับจำเลยมาก่อนนัดให้เข้าไปและพาขึ้นเรือนของผู้เสียหาย นับว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร แม้ว่าผู้เสียหายและภริยาไม่อนุญาตก็เป็นไปตามวิสัยของเรื่องเช่นนี้ที่ต้องปิดบังดังนี้จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก ตามกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) (3) (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2522 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2529 วินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2508 นี้)
คำว่า "เคหสถาน" ตาม ป.อ. มาตรา 1(4) มีความหมายรวมถึง บริเวณที่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยนั้นด้วย จะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น การที่จำเลยเข้าไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพัก ถือว่าเป็นการเข้าไปในเคหสถานแล้ว (ฎีกาที่ 1904/2546)
ความรักมันก็มีอุปสัก อย่างนี้แหละเอยยยยยย
เจตนารมณ์ของกฎหมายในความผิ
ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพ
1.เพื่อถือการครอบครองอสังห
2.เข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง
มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ทั้งนี้ 1. ถ้าเค้าไปด้วยการเชิฺญชวนขอ
แต่ปัญหามันเกิดเมื่อผมมาอ่
คือผู้ชายเข้าบ้านฝ่ายหญิง (เข้าห้องนอนฝ่าย ญ )ไปด้วยความยินยอมของฝ่ายหญ
คำพิพากษาฎีกาที่ 12031/2556
แม้พฤติการณ์ที่จำเลยบุกรุก
กับ
ฎีกาที่ 1353/
คำว่า "เคหสถาน" ตาม ป.อ. มาตรา 1(4) มีความหมายรวมถึง บริเวณที่ซึ่งเป็นที่อยู่อา
ความรักมันก็มีอุปสัก อย่างนี้แหละเอยยยยยย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ ปรึกษากฎหมายฟรี
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น